ประโยชน์ VoC ใน Contact Center - Protollcall

ทำไมการฟังเสียงลูกค้า (VoC) ถึงสำคัญต่อการทำ Contact Center

ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดีเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการรับฟังและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่ง Voice of Customer (VoC) หรือ “เสียงของลูกค้า” กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจความต้องการและปัญหาที่แท้จริงของลูกค้า โดยเฉพาะในระบบ Contact Center ที่เป็นช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า VoC ไม่เพียงแค่ช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ยังสร้างโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงเหตุผลที่ Voice of Customer สำคัญต่อระบบ Contact Center จะช่วยแก้ไขปัญหาและสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าได้อย่างไร

1. ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง และหาวิธีแก้ไขปัญหาที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่าเดิม

ระบบ Contact Center เป็นช่องทางที่ลูกค้าใช้สื่อสารกับธุรกิจเพื่อขอความช่วยเหลือ คำแนะนำ หรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น การฟังเสียงของลูกค้าผ่านช่องทางนี้จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา ลูกค้ารู้สึกว่าปัญหาของพวกเขาได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุดหรือรวดเร็ว ธุรกิจก็จะได้รับข้อมูลที่มีคุณค่าในการปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการต่อไป

2. ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience)

จุดหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปหาคู่แข่งหรือไม่ภักดีต่อแบรนด์ คือการได้รับบริการที่ไม่ตรงกับความคาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการตอบกลับล่าช้า การแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด หรือการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน การนำข้อมูลจาก VoC มาใช้ใน Contact Center ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น หากมีลูกค้าหลายรายร้องเรียนเกี่ยวกับการรอสายที่นาน ธุรกิจควรพิจารณาถึงการปรับเปลี่ยนระบบ หรือเพิ่มพนักงานในช่วงเวลาที่ลูกค้าติดต่อเข้ามามาก จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้

3. เสริมสร้างความสัมพันธ์และความภักดีของลูกค้า

ลูกค้าบางรายอาจรู้สึกว่าบริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของเขา พวกเขามักรู้สึกว่าความคิดเห็นและปัญหาของพวกเขาควรได้รับการใส่ใจและนำไปปรับปรุง การรับฟังเสียงของลูกค้าผ่าน Contact Center เป็นวิธีที่ธุรกิจสามารถแสดงให้เห็นถึงการใส่ใจในความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าเสียงของพวกเขามีความหมาย มีการรับฟังและนำไปปรับปรุงอย่างตรงจุด จะทำให้ลูกค้าเปลี่ยนความรู้สึก ความภักดีและความไว้วางใจก็จะตามมา

4. เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการแก้ปัญหา

การรับฟัง VoC ทำให้ธุรกิจสามารถเห็นภาพรวมของปัญหาที่ลูกค้าพบเจอและวิเคราะห์ได้ว่ามีปัญหาซ้ำ ๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยหรือไม่ ทีม Contact Center สามารถแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ให้ทีมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จะทำให้ทั้งธุรกิจสามารถปรับปรุงการตอบสนองและแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น เช่น การร้องเรียนเรื่องสินค้าชำรุดในระหว่างการขนส่ง ทีมงาน Contact Center สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ ในการหารือแก้ไขปัญหากับแผนกส่งของ หรือปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

5. พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้ดียิ่งขึ้น

 VoC ไม่ได้แค่ช่วยแก้ปัญหาในระดับการบริการเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ การที่ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าหรือบริการไม่ตอบโจทย์ความต้องการ และแจ้งปัญหาหรือเสนอแนะการปรับปรุงผ่าน Contact Center ช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้ตอบสนองต่อความต้องการเหล่านั้นได้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

6. เสริมสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจ

ธุรกิจที่รับฟังและปรับปรุงการให้บริการตาม VoC เช่น มีการแชร์เรื่องราวการปรับปรุงที่เกิดจากการเสนอแนะของลูกค้า เช่น การแก้ไขปัญหาการให้บริการหรือการพัฒนาสินค้า มักได้รับการยอมรับในเชิงบวกจากลูกค้า การแสดงให้เห็นว่าธุรกิจให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของลูกค้า ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ทำให้ธุรกิจดูน่าเชื่อถือและใส่ใจในทุก ๆ ด้านของการบริการ

บทสรุป

 Voice of Customer ในระบบ Contact Center ไม่ได้เป็นแค่การรับฟังปัญหา แต่เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้า ปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า เมื่อธุรกิจฟังเสียงของลูกค้าอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่แก้ไขปัญหาได้เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจของคุณได้อีกด้วย

เริ่มต้นใช้ประโยชน์จาก Voice of Customer หรือ VoC ในระบบ Contact Center ของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าและสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคง! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กดปุ่มโทรหาเราฟรี หรือติดต่อทีมขายที่น่ารักของเรา 02 026 5454 หรือ เพิ่มเพื่อนที่ Line @prca ได้เลย

12 วิธีการทำ Voice of Customer - Protollcall

Voice Of Customer Methodologies

 EP 2 : 12 เทคนิค เพื่อให้แบรนด์เข้าไปนั่งในใจลูกค้า (VOC Methodologies)

 “จงเข้าใกล้ลูกค้าให้มากกว่าที่เคย ใกล้จะกระทั่งคุณบอกได้ว่าพวกเขาต้องการอะไรก่อนที่พวกเขาจะรู้ซะอีก” – สตีฟ จ็อบส์ –

นี่คือความแตกต่างของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จกับแบรนด์ที่ล้มเหลว แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ลูกค้าพูด เข้าใจลูกค้าและมองการตัดสินใจของลูกค้าจากมุมมองของลูกค้า ยิ่งเข้าใกล้ลูกค้าได้มากเท่าไหร่ ก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปนั่งในใจของลูกค้ามากขึ้น สิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อตอบให้ได้ว่าอะไรเป็นตัวทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้สินค้าหรือบริการ เทคนิคการฟังเสียงลูกค้า (VOC Techniques) เป็นวิธีการที่แบรนด์นำมาใช้เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นตลอดจนปัญหาต่างๆจากลูกค้า นำมาปรับปรุงสินค้าหรือกระบวนการเพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า

เทคนิคการฟังเสียงลูกค้า (VOC Techniques)

1.Customer interviews การสัมภาษณ์ลูกค้าเป็นเทคนิคแบบดั้งเดิมใช้เพื่อทำความเข้าใจมุมมองของลูกค้าเกี่ยวกับปัญหาของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตลอดจนรูปลักษณ์และประสิทธิภาพ ปัจจุบันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะแจ้งข้อมูลเข้ามาเองไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์หรือทาง email

2.On-site Survey การสำรวจความคิดเห็นที่มีต่อสินค้าและบริการหลังจากที่ลูกค้าซื้อสินค้าหรือใช้บริการ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้แบรนด์ได้เข้าใจปัญหาซี่งหน้าลูกค้าเผชิญและช่วยแก้ไขปัญหาได้ การทำแบบสำรวจจะต้องพิจาณาเรื่องการออกแบบที่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับคำตอบที่เชื่อถือได้

3.Live Chat เป็นการรวบรวมความคิดเห็นลูกค้าแบบ real time เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับสำรวจลูกค้าทางเว็บไซต์ นอกจากจะได้พูดคุยกับลูกค้าแล้วยังช่วยลดความรู้สึกไม่พอใจของลูกค้าได้ด้วย

4.Social Media กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการโต้ตอบกับลูกค้าและรับทราบ feedback ของพวกเขา Social media ช่วยให้แบรนด์สามารถพูดคุยกับลูกค้าได้โดยตรงและ real time มากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้แบรนด์ได้รวบรวมความคิดเห็น ค้นหาเทรนด์และเรื่องราว จากการรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าได้อีกด้วย

5.Website behavior คือการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาในเว็บไซต์ สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมายในปัจจุบัน

6.Recorded Call Data ข้อมูลการโทรของลูกค้า ทำให้แบรนด์รู้ว่าลูกค้าคาดหวังอะไรและลูกค้ามีข้อขัดข้องอะไร แบรนด์สามารถอบรมทีมสนับสนุนลูกค้าเพื่อช่วยแก้ไขข้อขัดข้องและปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น

7.Online customer review รีวิวจากผู้ใช้ทางช่องทางออนไลน์ต่างๆ ตลอดจนตามเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมผู้ใช้งานจากหลากหลายผลิตภัณฑ์ มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์และบริการของแบรนด์ทั้งสิ้น รีวิวเชิงบวกช่วยสร้างชื่อเสียง ในขณะเดียวกันรีวิวเชิงลบก็ทำให้ผู้ซื้อคนอื่นๆ ลังเลที่จะตัดสินใจได้เช่นกัน

8.Off-site survey การทำแบบสอบถามนอกสถานที่ เพื่อสำรวจพฤติกรรมลูกค้าโดยทั่วไป และสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้ Google Form

9.Net Promoter Score (NPS) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัด VOC ใช้สอบถามความพึงพอใจในการแนะนำแบรนด์ให้กับ เพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน

อ่านตัวชี้วัดของ VOC ตัวอื่นๆ ได้จาก  EP 1 : VOC เทคนิคสำคัญที่คนทำ CX ต้องรู้

10.Focus group เป็นการจัดกลุ่มลูกค้าจำนวน 8 – 12 คน เพื่อให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือเพื่อทดสอบแนวคิดใหม่ๆและรับคำติชม

11.Email สามารถที่จะใช้รูปแบบทางการหรือเป็นส่วนตัวก็ได้ หรืออาจใช้ส่งกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มการขอความคิดเห็นและการตอบกลับได้ด้วย

12.On-site Feedback form เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้แบ่งปันความคิดเห็นได้ตลอดเวลาในแบบฟอร์ม feedback หรือแบบฟอร์มแสดงความคิดเห็น

เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้ทีมได้รับทราบข้อมูลเชิงคุณภาพจากลูกค้า นั่นหมายความว่าแบรนด์จะต้องส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมตอบคำถามในเชิงลึก และการให้ข้อเสนอแนะใดๆไม่ใช่ความรับผิดชอบแก่ลูกค้า หากลูกค้าไม่ให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ แบรนด์อาจต้องประเมินคำถามอีกครั้ง

อ่านเพิ่มเติม https://blog.hubspot.com/service/voice-of-the-customer-methodologies

PDPA Icon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ Privacy Notice และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

Save